>>>หลอดไฟ LED อีกหนึ่งตัวช่วยประหยัดค่าไฟ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม<<<
>>ปัจจุบันนี้ค่าไฟบ้านเรามีความผันผวนค่อนข้างสูงด้วยปัจจัยต่าง ๆ การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยประหยัดค่าไฟในบ้านได้ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แล้วหลอดไฟ LED จะช่วยประหยัดค่าไฟในบ้านได้อย่างไร วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกัน
1. หลอด LED ประหยัดไฟมากกว่า 85% เมื่อเทียบกับหลอดไฟรูปแบบเดิม เนื่องจากหลอดไฟ LED ใช้จำนวนพลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่ต่ำ แต่สามารถแปลงเป็นความสว่างได้มากกว่ารูปแบบเดิม
2. มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีอายุการใช้งานสูงถึง 15,000 - 50,000 ชั่วโมง เปรียบเทียบกับหลอดไฟรูปแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นหลอดไส้ มีอายุการใช้งานเพียง 800 - 1,000 ชั่วโมง หรือแม้กระทั่งหลอดตะเกียบที่มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 7,000 - 8,000 ชั่วโมง
3. ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลอดไฟ LED ปราศจากสารปรอทและโลหะหนักต่าง ๆ ที่อาจก่ออันตรายกับผู้ใช้งาน ซึ่งสารเคมีดังกล่าวยังส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้พืชและสัตว์ต่าง ๆ เกิดความเสียหายทางพันธุกรรมได้
4. มีความทนทานสูง หลอดไฟ LED มีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน หรือทนทานต่อการสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งาน
5. ไม่ปล่อยรังสี UV เหมือนหลอดทั่วไป และสามารถให้แสงสว่างได้อย่างคงที่ ไม่มีการกระพริบ นอกจากนี้ยังมีแสงที่อ่อนนุ่ม ช่วยถนอมสายตาอีกทางหนึ่งด้วย
>>>จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟในบ้านเราแล้ว ยังปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหมาะกับยุคนี้ที่ให้ความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย
18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. สำนักงานพลังงานจังหวัดนครนายกร่วมทดสอบและตรวจต่ออายุประจำปี พ.ศ. 2568 สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เร่งคลอด กม.ส่งเสริมปาล์มน้ำมัน ช่วยเกษตรกรรับมือหลังยกเลิกชดเชยไบโอดีเซล
ประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง นโยบายไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568